โสมเกาหลี
โสมเกาหลีนั้นประวัติศาสตร์ยาวนานโดยประมาณถึง 2,000 ปี ด้วยการที่เผยแพร่ความเป็นมาและคุณค่าของโสมเกาหลีนั้น ได้ถูกขนานนามว่าเป็นยาอายุวัฒนะ ซึ่งเป็นสิ่งที่จิ๋นซีฮ่องเต้นั้นปราถนา
โสมเกาหลีนั้นถือได้ว่าเป็น ราชาแห่งสมุนไพรแห่งเอเชียที่อุดมไปด้วยคุณประโยชน์ เป็นแหล่งรวมของสารอาหารที่สำคัญๆอย่าง จินซิโนไซด์ (Ginsenosides) มีสรรพคุณที่ สามารถสร้างความสมดุลให้กับร่างกายของเราที่ศัพท์ทางแพทย์ของคนจีน เรียกว่า หยิน-หยางนั้นเอง และตัวโสมเกาหลีเองนั้นจะแบ่งชนิดกันไปตามอายุของมันได้ 3 ชนิดคือ
โสมสด: ที่เก็บเกี่ยวจากโสมโดยมีอายุไม่เกิน 4 ปี
โสมขาว: โสมที่มีอายุตั้งแต่ 4-6 ปีโดยจะนำรากโสมที่ล้างสะอาดแล้วนั้นมาตากแดดหรืออบให้แห้งทันที
โสมแดง: โสมที่อายุเกิน 6 ปีขึ้นไปถือได้ว่าเป็นโสมที่มีราคาแพงที่สุดในบรรดาโสมทั้ง 3 ชนิดเพราะต้องผ่านกระบวนการทำนั้นหลายขั้นตอน โดยนำรากโศมมาล้างให้สะอาดและต้องผ่านการอบและฆ่าเชื้อ ก่อนนำมาอบด้วยไอน้ำเป็นเวลา 2-4 ชั่วโมงจะได้เป็นสีน้ำตาลแดงและนำไปอบจนแห้งเป็นขั้นตอนสุดท้าย จึงจะได้โสมแดงมานั้นเอง
ลักษณะของต้นโสมเกาหลี (โสมคน)
โสมเกาหลี จัดเป็นพืชล้มลุกมีอายุหลายปี โสมเป็นพืชตระกลูผีกชี ลำต้นฉ่ำน้ำ ลำต้นมีขนาดประมาณ 60-80 เซนติเมตร ลำต้นมีลักษณะกลมและตั้งตรง มีรากเก็บอาการลักษณะพองโต แยกเป็นง่าม นิยมเก็บรากมาใช้เป็นยาเมื่ออายุประมาณ 4-6 ปี มักขึ้นใต้ร่มเงาไม้อื่น ลำต้นจะแห้งไปในช่วงฤดูหนาว
ต้นโสมเกาหลี โสมเป็นพืชค่อนข้างโตช้า ถ้าเพาะปลูกจากเมล็ดจะต้องใช้เวลาถึง 5-6 ปี จึงจะเก็บมาใช้ได้ โดยในปีแรกจะมีความสูงเพียง 1 ฟุต มีใบ 1 ใบ ประกอบด้วยใบย่อย 3-5 ใบ และใบจะเพิ่มขึ้นปีละ 1 ใบ เมื่อถึงปีที่ 3 ก็จะเริ่มออกดอก เมื่ออายุ 4-5 ปี ต้นจะสูงประมาณ 2 ฟุต โสมเกาหลีเป็นพืชที่ปลูกยากต้องการภูมิอากาศเฉพาะ
การเพาะปลูกจะต้องปลูกในที่ที่ไม่เคยปลูกโสมมาก่อนในช่วงระยะเวลา 10-15 ปี ต้องปลูกในที่ที่มีแสงไม่มากและต้องเอาใจใส่ดูแลเป็นอย่างดี สามารถขยายพันธุ์โดยการใช้เมล็ดจากต้นแก่ที่มีอายุตั้งแต่ 4 ปีขึ้นไป แล้วต้องนำเมล็ดที่ได้ไปปลูกทันทีเพราะหากทิ้งไว้ให้แห้งจะไม่ขึ้นทันที จะงอกใน 8 เดือน แต่ถ้าทิ้งเมล็ดไว้ 4 เดือนแล้วจึงนำมาปลูกในที่ชื้น จะใช้เวลา 9 เดือนจึงจะงอก
โสมเป็นพืชที่ชอบดินเหนียว มีค่า pH ประมาณ 5.5-6.0 อุณหภูมิที่ปลูกประมาณ 0-15 องศาเซลเซียส ไม่ชอบแสงแดด จึงต้องทำร่มบังให้ ภูมิอากาศในประเทศไทยจึงไม่เหมาะสำหรับการปลูกโสมและยังไม่สามารถปลูกโสมได้ ในปัจจุบันปลูกกันมากในประเทศเกาหลี จีน รัสเซีย และญี่ปุ่นอีกข้อมูลหนึ่งระบุว่าโสมที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติจะเรียกว่า “โสมป่า” ส่วนโสมที่มีคนนำมาเพาะปลูกจะเรียกว่า “โสมสวน” โดยโสมป่าจะมีรากขนาดเล็กและยาวกว่าโสมส่วน บริเวณส่วนหัวของรากจะยาวและมีการแตกรากมาก รากฝอยจะยาวและเหนียวกว่าโสมสวน และมีคุณภาพที่ดีกว่าอีกด้วย
รากโสมเกาหลี รากมีขนาดใหญ่อ้วนกลม มีลักษณะอวบแตกเป็นแขนง 2 อัน ลักษณะคล้ายกับขาคน หากดูทั้งรากจะมีลักษณะคล้ายกับคน บางครั้งจึงเรียกว่า “โสมคน” โดยรากแก่ยาวประมาณ 8-20 เซนติเมตร โดยคำว่า “Ginseng” นั้นเป็นภาษาจีน ที่แปลว่า man-root ซึ่งหมายถึง รากไม้ที่มีลักษณะคล้ายคน มองดูคล้ายมีหัวแขนและขา (บางตำรากล่าวว่ารากโสมยิ่งมีลักษณะใกล้เคียงกับมนุษย์มากเท่าไหร่ ก็ยิ่งแสดงว่าโสมนั้นมีคุณค่าและมีราคาแพง) เปลือกรากเป็นสีเหลือง มีเนื้อนิ่ม เนื้อในรากเป็นสีขาว แตกรากฝอยมาก การจะเก็บรากโสมจะต้องเก็บในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ก่อนการออกดอก ซึ่งจะเป็นช่วงที่โสมที่สารสำคัญอยู่มากที่สุด เมื่อเก็บมาแล้วก็ต้องทำให้แห้งโดยเร็ว ทั้งนี้ก็เพื่อป้องกันมิให้เอนไซม์ในรากโสมออกมาทำลาย saponin
ใบโสมเกาหลี
ใบเป็นใบประกอบคล้ายรูปฝ่ามือ ลักษณะของใบคล้ายกับใบหนุมานประสานกายหรือใบต้นนิ้วมือพระนารายณ์ แต่มีขนาดบางกว่า โดยจะมีใบย่อยประมาณ 3-5 ใบ ออกเรียงตัวเป็นวงรอบลำต้น โดยสมที่มีอายุประมาณ 2-5 ปี จะมีใบย่อยประมาณ 5 ใบ ลักษณะของใบย่อยเป็นรูปกลมรี ปลายใบแหลม ส่วนขอบใบหยักเป็นฟันเลื่อย มีขนาดกว้างประมาณ 2-6.5 เซนติเมตร และยาวประมาณ 4-15 เซนติเมตร ใบย่อยสามใบด้านบนจะมีขนาดใหญ่กว่าใบย่อยสองใบที่อยู่ด้านล่าง เส้นหน้าใบมีขนปกคลุมเล็กน้อย ส่วนหลังใบไม่มีขน ใบจะเพิ่มขึ้นปีละ 1 ใบ
ดอกโสมเกาหลี
ออกดอกเป็นช่อสีขาวที่ยอดต้น มีก้านดอกยาวชูออกมาจากยอด แบบซี่ร่ม ก้านช่อดอกยาวประมาณ 30 เซนติเมตร ช่อหนึ่งมีดอกย่อยประมาณ 4-40 ดอก ดอกย่อยมีขนาดเล็ก มีสีเหลืองอ่อนอมสีเขียว ในหนึ่งดอกจะมี 5 กลีบ กลีบดอกมีลักษณะเป็นรูปไข่ ส่วนกลีบเลี้ยงดอกเป็นสีเขียว มี 5 กลีบ หุ้มอยู่ ก้านดอกย่อยยาวประมาณ 5 มิลลิเมตร ใจกลางดอกมีเกสรเพศผู้ 5 อัน ส่วนเกสรเพศเมียมี 1 อัน แบบสั้น โดยจะออกดอกในช่วงประมาณเดือนมีนาคมถึงเดือนเมษายน
ผลโสมเกาหลี
ผลมีลักษณะกลมแบนเล็กน้อย เป็นผลสดเป็นสีเขียว เมื่อสุกจะเปลี่ยนเป็นสีแดง
สรรพคุณของโสมเกาหลี
- โสมเกาหลีนั้นสามารถปรับสมดุลให้กับร่างกาย ปรับสมดุลของความดันโลหิต
- ปรับระดับน้ำตาลในเลือด
- บำรุงฮอร์โมนเพศและระบบภูมิคุ้มกัน
- เพิ่มสมรรถภาพทางร่างกายให้แข็งแรง
- ช่วยบำรุงสมอง
- ลดความเหนื่อยล้า เหมาะสำหรับหนุ่ม-สาววัยทำงานที่ต้องการความสดชื่น กระปรี้กระเปร่าให้กับร่างกายในเวลาทำงาน
- ช่วยแก้อาการเบื่ออาหาร
- โสมเกาหลีนั้นมีสรรพคุณเป็นยาช่วยเรื่องการบำรุงหัวใจโดยจะออกฤทธิ์คล้ายๆกับยาที่ชื่อว่า diogoxin ปกป้องกันหัวใจขาดเลือด ป้องกันสภาวะเส้นเลือดอุดตัน
- ช่วยแก้หัวใจเต้นผิดปกติ หรือ หายใจผิดปกติ
- รักษาอาการผิดปกติต่างๆ การหย่อนสมรรถภาพทางเพศ
- ระบบทางเดินอาหารผิดปกติ
- รักษาอาการโลหิตจาง เบาหวาน และความเครียด
ไม่ว่าจะเป็นโสมไทยหรือโสมเกาหลีนั้น ต่างมีสรรพคุณที่มากมายและหลากหลายในการรักษาบำรุงร่างกายภายในส่วนต่างๆของร่างกายคุณ ในปัจจุบันโสมนั้นมีขายมากมายหรือไม่ก็นำมาผสมทำเป็นสนค้ายาบำรุงร่างกาย หรือขวดยาบำรุง โสมนั้นเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกในการบำรุงร่างกายของคุณ ด้วยความที่มีสรรพคุณหลากหลาย และเป็นประโยชน์ต่อร่างกาย ดังนั้นคุณไม่ควรพลาดที่จะซื้อมันมารับประทาน เพื่อร่างกายของคุณเอง และสุขภาพที่ดียาวนาน