หนานเฉาเหว่ย หรือ ป่าช้าเหงา สุดยอดสมุนไพรรักษาโรคระดับฮ่องเต้
หนานเฉาเหว่ย เป็นสมุนไพรที่มีถิ่นกำเนิดในประเทศจีน และนำมาปลูกในเชิงการค้าในประเทศไทยอีกด้วย เนื่องด้วยสรรพคุณของมันเป็นที่น่าจับตามอง เนื่องจากสมุนไพรชนิดนี้สามารถลดน้ำตาลในเลือดและลดความดันโลหิตได้เป็นอย่างดี จึงมีการนำมาทำเป็นสารสกัดชนิดต่างๆที่แปรรูปต่อมาจากสมุนไพรหนานเฉาเหว่ย สมุนไพรชนิดนี้ขึ้นชื่อว่าใช้ได้ผลจริงทั้งในประเทศจีนและประเทศไทย ทำให้เป็นที่รู้จักไปทั่ว โดยเฉพาะผู้ป่วยน้ำตาลในเลือดสูง ด้วยสรรพคุณที่น่าสนใจยังมีงานวิจัยต่างๆพบว่ายังสามารถช่วยฟื้นฟูร่างกายและรักษาโรคได้อีกหลายชนิดเลยทีเดียว
การทานสมุนไพรชนิดนี้ง่ายกว่าชนิดอื่นๆ ผู้ป่วยสามารถทานใบสดของมันได้เลย ไม่จำเป็นต้องนำมาปรุงก่อน หรือสามารถนำมาตำด้วยครกก่อนเพื่อคั้นน้ำก็ทำได้ แต่ผู้ป่วยบางท่านที่ทานยาก ก็สามารถนำใบของมันไปต้มน้ำให้เดือดและดื่มรักษาโรคเบาหวานและความดันโลหิตได้เช่นกัน
สรรพคุณทางยาที่เป็นที่รู้จักไปทั่วโลกนั่นคือ หนานเฉาเหว่ยสามารถรักษาและบรรเทาอาการให้กับผู้ป่วยโรคเบาหวานได้เป็นอย่างดี แม้เป็นพืชที่ปลูกและดูแลไม่ยาก แต่สรรพคุณของมันน่าทึ่งมาก เพราะสามารถลดน้ำตาลในเลือดของผู้ป่วยจนกลับมาใช้ชีวิตปกติได้เลยทีเดียว ไม่เพียงเท่านี้ ด้วยคุณสมบัติลดความดันโลหิตของมัน ยังถูกนำไปใช้กับผู้ที่มีความเครียดสะสม ทำให้มีความดันโลหิตสูง การทานหนานเฉาเหว่ยเข้าไปช่วยให้ร่างกายปรับสมดุล ความดันโลหิตกลับมาเป็นปกติได้อย่างน่าอัศจรรย์มาก
ที่สำคัญยังมีการนำตำราจีนไปเปิดสรรพคุณพบว่าชาหนานเฉาเหว่ยยังให้สรรพคุณทางยาอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นโรคเก๊าต์ ผู้ป่วยที่มีภาวะไขมันสูง โรคไทรอยต์ต่ำ ทั้งมีรายงานว่าการรับประทานใบสดของมัน 5 – 7 ใบ โดยแบ่งทาน 3 ครั้งต่อวันสามารถรักษาโรคมะเร็งได้อีกด้วย นอกจากนี้ผู้ป่วยโรคริดสีดวงทวารหนักนำสมุนไพรชนิดนี้ไปเคี้ยวทาน จะช่วยบรรเทาอาการลงได้ และยังล้างพิษสะสมในร่างกาย เพิ่มสมรรถนะทางเพศและบำรุงหัวใจอีกด้วย คุณประโยชน์นับไม่ถ้วนเช่นนี้ หาได้ยากที่จะนำสมุนไพรชนิดอื่นมาเทียบ ดังนั้นจึงควรนำมาปลูกไว้กับบ้านอย่างยิ่ง เป็นยาประจำบ้านไปได้เลย
หนานเฉาเหว่ยจัดเป็นสมุนไพรที่น่าปลูกไว้คู่บ้านอย่างมาก เนื่องจากดูแลง่าย หาได้ไม่ยาก เติบโตเห็นผลรวดเร็วมาก ทันใช้อย่างแน่นอน การปลูกเพียงนำกิ่งมาปักชำ รดน้ำเช้าเย็น ในเวลาไม่เกิน 7 วัน เราก็จะเห็นยอดอ่อนของมันขึ้นมาแล้ว สามารถเก็บทานกันได้เลย
ประโยชน์ของสมุนไพรหนานเฉาเหว่ย สรรพคุณรักษาโรค การรับประทานและผลข้างเคียง
หนานเฉาเหว่ยเป็นสมุนไพรที่มีประโยชน์หลากหลายมาก โดยสมุนไพรชนิดนี้มีชื่อเรียกในภาษาไทยว่าป่าช้าเหงา ซึ่งปัจจุบันมีผลงานวิจัยในหนูทดลองออกมาอย่างชัดเจนสำหรับตัวสมุนไพรชนิดนี้ พบว่าสามารถรักษาโรคได้หลากหลายจริง แม้จะโด่งดังจากการรักษาผู้ป่วยโรคเบาหวานให้หายอย่างไม่น่าเชื่อ แต่กลับให้ผลดีเยี่ยมในการรักษาโรคอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นโรคหัวใจ โรคไขมัน โรคความดันโลหิต จึงนิยมนำมาใช้เป็นยารักษาโรคเพิ่มมากขึ้นทุกวัน
- รักษาโรคเบาหวาน สมุนไพรหนานเฉาเหว่ยมีชื่อโด่งดังมาตั้งแต่โบราณทั้งประเทศจีนและประเทศไทย ซึ่งได้รับขนานนามว่าเป็นยาสวรรค์ของผู้ป่วยโรคเบาหวาน เนื่องด้วยคุณสมบัติของมันช่วยลดน้ำตาลในเลือด เห็นผลชัดเจนมากกว่าสมุนไพรชนิดอื่นๆ จนยาหมอราคาแพงต้องชิดซ้ายไปเลย นับว่าเป็นวิธีการรักษาที่ประหยัดและได้ผลจริง
- รักษาโรคหัวใจ สมุนไพรชนิดนี้มีผลดีต่อระบบไหลเวียนโลหิต นอกจากจะลดน้ำตาลในเลือดแล้ว ยังสามารถลดความดันโลหิตของผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูงได้อีกด้วย มีการวิจัยพบในหนูทดลอง ซึ่งหนูทดลองที่ได้รับหนานเฉาเหว่ยจะลดอาการใจสั่นและอาการตื่นกลัวไปได้มาก ผู้ป่วยโรคหัวใจจึงใช้เป็นยารักษาโรคได้
- รักษาโรคไขมัน ด้วยคุณสมบัติสุดยอดสมุนไพรที่ช่วยลดระดับไขมันในเลือด ช่วยให้ระบบเผาผลาญของร่างกายเกิดความสมดุล สมุนไพรหนานเฉาเหว่ยจึงถูกนำมาใช้รักษาโรคไขมันได้เป็นอย่างดี นับว่าเป็นยาดีที่ต้องรู้จักเลยทีเดียว
- รักษาโรคเก๊าต์ อีกโรคที่มาพร้อมกับความทุกข์ทรมาน ปวดกระดูก กินไม่ได้นอนไม่หลับ บางรายก่อนนอนก็ปวด ตื่นมาก็ปวด แต่ด้วยสมุนไพรชนิดนี้มีคุณสมบัติลดอาการปวดตามข้อต่อและกระดูกได้ดี ทำให้ผู้ป่วยโรคเก๊าต์ทุเลาจากความเจ็บปวดได้เลย
- รักษาโรคริดสีดวงทวารหนัก และช่วยล้างพิษสะสมในร่างกาย หลายๆคนคงทราบดีว่าลำไส้และตับต้องเก็บสะสมของเสียที่เป็นพิษเอาไว้ การทานสมุนไพรตัวนี้รับรองว่าจะล้างเอาพิษที่สะสมอยู่ในตับและที่เกาะติดอยู่กับลำไส้ออกมาเกลี้ยงกันไปเลย ช่วยให้ร่างกายดูดซึมสารอาหารได้ดีมากขึ้นหลายเท่า
อย่างไรก็ตามผู้ป่วยควรคำนึงถึงผลข้างเคียงของสมุนไพรชนิดนี้ เนื่องด้วยตัวยาของมันมีฤทธิ์แรงกว่าสมุนไพรชนิดอื่นๆ และมีผลให้ไตต้องทำงานหนัก จึงไม่ควรทานต่อเนื่องเป็นเวลานานเกิน 1 เดือน ควรเว้นระยะสักเดือนแล้วค่อยกลับมาทานใหม่
วิธีทานสมุนไพรชนิดนี้ง่ายมาก เพียงแค่คั้นน้ำดื่ม หรือนำไปต้ม ก็สามารถดื่มเป็นชาได้เลย แต่หากไม่สะดวกนำไปปรุง ผู้ป่วยยังสามารถนำมาเคี้ยวทานสดได้อีกด้วย เป็นสมุนไพรที่ทานไม่ยาก
