เก๋ากี้ โกจิเบอร์รี่ Herbal Fruits กับสรรพคุณที่ช่วยบำรุงได้ดีที่สุด

in สรรพคุณสมุนไพร, เก๋ากี้, โกจิเบอร์รี่

เก๋ากี้ โกจิเบอร์รี่ Herbal Fruits กับสรรพคุณที่ช่วยบำรุงได้ดีที่สุด

รู้ไหมว่า “ ในโกจิเบอร์รี่หรือเก๋ากี้นั้น มีสารอาหารมากมายที่เสกให้เราสวยเด้งได้ง่ายๆ “

และนอกจากจะมีสารอาหารสำคัญต่างๆที่ ช่วยในการลดน้ำหนักแล้วนั้น ยังมีสารอาหารต่างๆที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายอีกมากมายทีเดียว มาดูสารอาหารสำคัญๆในเก๋ากี้กันเลยค่ะ

สารโพลี่แซคคาไรด์ 4 ชนิด
ช่วยลดน้ำหนัก โดยเสริมการเปลี่ยนอาหารให้เป็นพลังงานแทนไขมัน วยให้น้ำตาลในเลือด และอินซูลินอยู่ในสภาวะสมดุล
คุณค่าทางโภชนาการมากที่สุดในโลก
ประกอบด้วยกรดอะมิโน 19 ชนิด (ปกติมี 20 ชนิด) แต่มีกรดอะมิโนครบทั้ง 9 ชนิด
มีแร่ธาตุที่ร่างกายต้องกายในปริมาณน้อย รวม 21 ชนิด ที่สำคัญได้แก่ สังกะสี เหล็ก ทองแดง แคลเซี่ยม ฟอสฟอรัส ซิลีเนียม และเจอร์มาเนียม ฯลฯ
ตัวเผาผลาญไขมันแบบออแกนิคสมบูรณ์แบบ ไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ เป็นตัวช่วยที่ทำให้น้ำหนักเราลดลง
เบต้า – ไซโตสเตอรอล (Beta – Sitosterol)
ช่วยลดคอเลสเตอรอลโดยการดูดซึมที่ลำไส้
ช่วยลดอาการต่อมลูกหมากโต
ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพน้ำอสุจิให้แข็งแรง
มีสารเจอร์มาเนี่ยม Germanium : Ge ที่อยู่ในสภาพอินทรีย์ (organic) ช่วยฆ่าเซลล์มะเร็ง
ไฟซาลิน (Physalin) ช่วยกำจัดโรคร้าย ลิวคีเมีย (Leukemia)
มีวิตามินซีสูงกว่าส้ม 500 เท่า (เป็นพืชที่มีวิตามินิซีสูงเป็นอันดับสอง รองจาก คามู คามูเบอร์รี่)
มีวิตามิน บี1 บี2 บี6 และวิตามินอี
บีรเทน (Betaine) เป็นสารประกอบที่ให้ตับใช้ ผลิตโคลีนซึ่งเป็นสารประกอบที่ ,ช่วยให้มีความจำดี, ช่วยกระตุ้นให้กล้ามเนื้อเจริญเติบโต , ช่วยป้องกันโรคตับ
สารต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidant) ที่มีประสิทธิภาพสูงที่สุดในบรรดาผักและผลไม้อื่นๆ คือ มีค่า ORAC สูง 25,300 unite
สารซิแซนทิน(Zeaxanthin) มีสูงถึง 162 มก./100 กรัมสูงกว่าสาหร่ายเกลียวทองประมาณ 5 เท่า ช่วยบำรุงสายตา และป้องกันแสงสีน้ำเงินที่ทำลายดวงตา , ช่วยผู้มีอาการ ตาต้อลม ตาพร่า ตามัว ให้คืนสู่สภาพปกติ

เห็นสารอาหารเพียบอย่างนี้แล้ว มั่นใจได้เลยค่ะว่า
ทานไปมีแต่ประโยชน์ น้ำหนักลด สุขภาพดีขึ้น หุ่นดีสวยเด้งกันแน่นอน เพียงแค่ ทานวันละ 20-30 กรัม เท่านั้นเอง

ไม่กี่ปีมานี้ เทรนคนรักสุขภาพบูมมากๆ และมีเทรนใหม่ๆออกมาเพื่อให้ทุกคนได้ Challenge กัน และหนึ่งในเทรนก็คือ ผักเขียวๆกลิ่นฉุนๆที่เอามาปั่นเพื่อให้ได้น้ำแล้วเอามาดื่ม บูมมากในโซเซียลมีเดีย แม้แต่ดาราฮอลลี่วู้ดก็ทำดื่มจนทุกคนทั่วโลกสนใจและทำกันอย่างแพร่หลาย พร้อมติดแฮชแทค #celeryjuicecleanse หลายคนที่ไม่ชอบผักพอนึกถึงคงจะร้องหยี๋กัน และผมก็เป็นหนึ่งในนั้นที่ไม่ชอบผักชนิดที่มีกลิ่นฉุนแบบนั้นเอาซะเลย แล้วใครล่ะจะบอกว่าคนที่ไม่กินผักจะไม่สามารถดูแลสุขภาพตัวเองได้ นอกจากผักก็ยังมีหลายสิ่งที่นำมารับประทานแล้วดีต่อสุขภาพเราเหมือนกัน

วันนี้ผมเลยอยากแนะนำ โกจิเบอร์รี่ หรือ เก๋ากี้ ที่เป็นมากกว่าผลไม้เพราะช่วยในเรื่องมาดูแลสุขภาพ สำหรับผู้ที่มีน้ำหนักตัวเยอะ โกจิเบอร์รี่จะช่วยเผาผลาญได้ดีขึ้น ลดระดับน้ำตาลในเลือดของผู้ป่วยโรคเบาหวาน ลดคอเลสเตอรอล ช่วยต้านมะเร็ง เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ต้านทานหวัด บำรุงสายตา ลดการเสื่อมสภาพดวงตาและปกป้องดวงตาจากรังสี UV บำรุงไต แก้อาการอ่อนเพลีย เครียด และช่วยให้หัวใจทำงานได้อย่างปกติ บรรเทาอาการปวดตามข้อกระดูก ช่วยในเรื่องขับถ่าย ขจัดไขมันในร่างกายลดความดันโลหิต ลดความเสี่ยงจากโรคหัวใจ บำรุงกระดูกและกล้ามเนื้อ ช่วยฟื้นฟูสภาพผิวจากแสงแดด อีกทั้งยังช่วยให้ความจำดีขึ้น

ทำไมเก๋ากี้ถึงมีสรรพคุณเยอะขนาดนี้น๊า นั่นก็เพราะว่า โกจิเบอร์รี่อุดมไปด้วยวิตามิน และแร่ธาตุมากมาย เช่น วิตามินA วิตามิน C ธาตุเหล็ก ไฟเบอร์ ซิงค์ เหล็ก ทองแดง แคลเซียม สังกะสี เจอมันเนียม เซเรเนียม ฟอสฟอรัส และยังอุดมไปด้วยกรดอะมิโน 18 ชนิด มีสารไฟซาลิน (Physalin) มีฤทธิ์ช่วยกำจัดโรคลิวคีเมีย (Leukemia)

ใช้สำหรับกินเล่นเปล่าๆหรือนำมาประกอบอาหารก็ได้ เช่น เอามาใส่ในต้มจืด ต้มซุปซี่โครงหมูเห็ดหอม ซุปหมูตุ๋นยาจีนพร้อมกับพุทราจีน ต้มกับน้ำร้อนดื่มเป็นชาก็เวิร์ค ยิ่งวัยทำงานชีวิตมีแต่ความเร่งรีบ ตื่นเช้ามากินกับโยเกิร์ตหรือซีเรียลก่อนออกไปทำงานสะดวกรวดเร็ว ไม่ต้องกลัวสายครับ ลูกๆหลานๆก็สามารถทานได้ รับประทานประมาณ 20–30 กรัมต่อวัน ก็เพียงพอแล้ว หรือใครมีสูตรอื่นๆอย่าลืมนำมาแบ่งปันกัน

สำหรับข้อมูลความรู้อื่นๆเกี่ยวกับเก๋ากี้เรายังมีบทความเกี่ยวกับเปิดตำราโกจิเบอร์รี่สำหรับสุขภาพ

แล้วมาทานเก๋ากี้ดีๆมีประโยชน์จาก Herbal Fruits กันนะคะ สั่งซื้อได้ตามที่นี่ได้เลย

โกจิเบอร์รี่ เก๋ากี้ ( Goji Berry ) ออแกนิค 150 กรัม

[porto_product view=”grid” column_width=”2″ id=”2149″ animation_type=”fadeIn”]

เปิดตำราโกจิเบอร์รี่สำหรับสุขภาพ

in สรรพคุณสมุนไพร, เก๋ากี้, โกจิเบอร์รี่

เปิดตำราโกจิเบอร์รี่สำหรับสุขภาพ

ปัจจุบันอาหารสุขภาพได้รับความนิยมมากขึ้น เกิดการปรับตัวและนำโกจิเบอร์รี่เข้ามาเป็นส่วนประกอบของอาหารมากขึ้น สำหรับประเทศไทยสามารถหาโกจิเบอร์รี่ได้ง่าย เพราะโกจิเบอร์รี่ก็คือเม็ดเก๋ากี้ในซองสมุนไพรสำหรับเมนูตุ๋นยาจีน แต่สายพันธุ์ของโกจิเบอร์รี่บนโลกมีมากถึง 41 สายพันธุ์ สรรพคุณก็ลดหย่อนไม่เท่าเทียมกัน จากผลการวิจัยของ Dr.Earl Mindell พบว่าโกจิเบอร์รี่ที่มีสรรพคุณดีและครบถ้วนมากที่สุดคือ สายพันธุ์จากทิเบต และโกจิเบอร์รี่สีดำ แต่สายพันธุ์ที่ปลูกในไทยก็ทดแทนกันได้และมีราคาถูกกว่า โกจิเบอร์รี่ให้คุณค่าทางโภชนาการสูง โดยเฉพาะอย่างยิ่งมีค่า ORAC (ประสิทธิภาพในการกำจัดอนุมูลอิสระ) ในปริมาณมากถึง 25,300 (ในขณะที่ลูกพรุนซึ่งมีค่า ORAC เป็นลำดับที่ 2 มีค่า ORAC เพียง 5,700 เท่านั้น)

อีกหนึ่งสาเหตุที่โกจิเบอร์รี่ (เก๋ากี้) เป็นที่นิยมสำหรับเมนูสุขภาพคือ ใยอาหารสูงถึงร้อยละ 20 พร้อมด้วยกรดอะมิโนที่จำเป็นต่อร่างกายตั้ง 19 ชนิด รวมถึงแร่ธาตุที่จำเป็นต่อร่างกายถึง 21 ชนิด อาทิ สังกะสี เหล็ก ทองแดง แคลเซียม ฟอสฟอรัส ซิลีเนียม และเจอร์มาเนียม (ช่วยฆ่าเซลล์มะเร็ง) มีวิตามินซีสูงกว่าส้ม 500 เท่า มีวิตามินบี 1 บี 2 บี 6 และวิตามินอี นอกจากนี้โกจิเบอร์รี่ยังมีสารอาหารที่สำคัญจำพวกซีแซนทีน (zeaxanthin) และลูทีน (lutein) สูงมากกว่าผักและผลไม้ทั่วไปซึ่งร่างกายมนุษย์ไม่สามารถสร้างได้

การรับประทานเพียงนำผลอบแห้งมาแช่น้ำให้นิ่ม โรยบนเมนูอาหารเช้าง่าย ๆ เช่น ซีเรียลพร้อมนม หรือแกรนโนล่ารับประทานคู่กับโยเกิร์ต รสชาติของโกจิเบอร์รี่จะมีรสหวานนิด ๆ พอทานง่าย หรือนำผลอบแห้งมาชงเป็นชาร้อนดับกระหาย และสุดท้ายนำมาประกอบอาหารเมนูต่าง ๆ เช่น แกงจืดเต้าหู้หมูสับ ไก่ตุ๋นยาจีน ฯลฯ การรับประทานเป็นประจำด้วยปริมาณที่พอดี จะบำรุงระบบหมุนเวียนโลหิตให้สมดุล บำรุงสายตา พร้อมสารต้านอนุมูลอิสระที่เป็นต้นเหตุของเซลล์มะเร็ง จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่โกจิเบอร์รี่ (เก๋ากี้) ได้อยู่ในเมนูจากประเทศจีนซึ่งมีประวัติไม่น้อยกว่าพันปี

ทำไมคนถึงนิยมรับประทานโกจิเบอร์รี่ ?

นอกจากรสชาติที่อร่อยติดปากของโกจิเบอร์รี่แล้ว ยังมีสรรพคุณและประโยชน์อีกมากมายภายในเมล็ดโกจิเบอร์รี่เล็กๆนี้, โกจิเบอร์รี่นั้นเป็นผลไม้สีแดงเม็ดเล็กซึ่งเป็นที่นิยมของคนจีน ญี่ปุ่นและเกาหลีมาหลายร้อยปีซึ่งปัจจุบันนักโภชนาได้ค้นพบประโยชน์มากมายภายในโกจิเบอร์รี่เม็ดเล็กๆนี้ จนได้การยอมรับว่าเป็นทั้งผลไม้ และสมุนไพรไปในตัว ( Herb and Fruits )

ขึ้นชื่อในการเป็นอาหารลดความอ้วน โกจิเบอร์รี่นั้นเหมาะกับผู้ที่ต้องการลดน้ำหนัก ลดความอ้วนเป็นอย่างดี เนื่องจากตัวเมล็ดมีไยอาหาร หรือ Fiber มาก ซึ่งช่วยในการขับถ่ายและขจัดไขมันได้เป็นอย่างดีอีกทั้งยังช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือด ช่วยให้มีการเผาผลาญไขมันได้เป็นอย่างดีอีกทั้งเก๋ากี้นั้นยังปราศจากไขมัน จึงเป็นอาหารอันดับหนึ่งสำหรับผู้ที่ต้องการลดวามอ้วนได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นการใช้รับประทานเป็นของว่างแก้หิว หรือนำไปต้มกับน้ำซุบเพื่อเป็นยาในการช่วยเผาผลาญไขมันได้ดียิ่งขึ้น

ช่วยบำรุงผิดพรรณเป็นอย่างดี โกจิเบอร์รี่จัดเป็นเบอร์รี่ที่มีสารต่อต้านอนุมูลอิสระอีกทั้งยังมีวิตามินสูงมากเมื่อเทียบกับเบอร์รี่ชนิดอื่น จึงทำให้เก๋ากี้ช่วยในการต่อต้านและลดริ้วรอย อีกทั้งยังช่วยบำรุงผิวพรรณได้เป็นอย่างดี

บำรุงสายตาและประสาทตา ยุคปัจจุบันที่หลายคนทำงานออฟฟิตหรือทำงานหน้าคอมพิวเตอร์คงหนีไม่พ้นอาการปวดล้าตา ซึ่งเก๋ากี้หรือโกจิเบอร์รี่นั้นมีสาร Zeaxanthin และวิตามินสูงมาก ซึ่งช่วยปกป้องรังสีจากแสงและปกป้องเซลล์ประสาทตาไม่ให้ถูกทำลาย ช่วยลดอาการปวดล้าตาและบำรุงสายตาได้

โกจิเบอร์รี่กับเมนูอาหารไทย ๆ

โกจิเบอร์รี่อยู่คู่กับเมนูอาหารมากมายโดยที่คุณไม่คาดคิด หลายคนเคยรับประทานและชื่นชอบรสชาติของโกจิเบอร์รี่มาก หลายเมนูที่มีผลไม้ชนิดเป็นส่วนประกอบต้องเคยสัมผัสรสชาติกันบ้างแล้ว เพราะโกจิเบอร์รี่ก็คือ ‘เก๋ากี้’ ที่พบว่าเป็นส่วนประกอบของอาหารจากประเทศจีนมากที่สุด ในเมนู ‘ไก่ตุ๋นยาจีน’ ต้องเคยได้ลิ้มลองกัน เพราะชุดยาจีนสำหรับประกอบเมนูนี้ซึ่งหาซื้อได้ง่ายจะมีโกจิเบอร์รี่หรือเก๋ากี้ตากแห้งปรากฏในซอง ในปัจจุบันเมนูอาหารทั้งไทยและเทศนำเก๋ากี้มาใช้เป็นส่วนผสมเพื่อชูรสชาติอาหารให้โดดเด่น พร้อมอุดมด้วยสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย เพราะโกจิเบอร์รี่นั้นสรรพคุณครบเครื่อง หากคุณสนใจที่จะนำโกจิเบอร์รี่ไปใช้ประกอบอาหาร เรามีเมนูแนะนำที่ทำง่าย ๆ และรสชาติดีเหมาะกับคนที่ใส่ใจสุขภาพมากยิ่งขึ้น

เมนูแรกที่อยากแนะนำให้ลองคือ การนำโกจิเบอร์รี่มาผสมเป็นเมนูอาหารเช้าให้รับประทานได้ง่าย อาจเลือกซีเรียลรสโปรด เพิ่มโกจิเบอร์รี่ อัลมอนด์ ลูกเกด ฯลฯ ตามชอบ รับประทานคู่กับนมสดหรือโยเกิร์ตเท่านั้น หรือนำโกจิเบอร์รี่อบแห้งมาต้มกับน้ำเดือดสำหรับดื่มเป็นชาร้อน ๆ ก็ดี สำหรับผู้ป่วยที่อยากรับประทานอาหารเมนูซุปเพื่อซดให้สบายคอ เมนูขาไก่ตุ๋นยาจีนก็น่าสนใจ หรือจะเปลี่ยนเป็นกระดูกซี่โครงหมูตุ๋นยาจีนก็ดี หากนำมาประกอบอาหารเมนูผัดต้องนำโกจิเบอร์รี่แช่น้ำให้นิ่มก่อนนำไปประกอบอาหาร เมนูง่าย ๆ ก็คือข้าวผัดรวมมิตร และยังมีอีกหลากหลายเมนูที่นำโกจิเบอร์ไปเติมแต่งในอาหารซึ่งเป็นการเติมรสชาติหวานแบบธรรมชาติ จุดหนึ่งที่พึงระวังในการนำโกจิเบอร์รี่มาประกอบอาหารต่าง ๆ คือ ไม่ควรรับประทานเกินวันละ 20 กรัม

เพราะสรรพคุณที่ดีของโกจิเบอร์รี่คือ กำจัดเซลล์ต้นกำเนิดมะเร็งได้ ชะลอการเสื่อมของเซลล์ในร่างกาย (ชะลอความแก่) บำรุงเลือด และอุดมด้วยวิตามินซีมากกว่าส้มถึง 500 เท่า ช่วยบำรุงการทำงานของร่างกายให้กลับมาสมดุลอีกครั้ง การนำโกจิเบอร์รี่มาประกอบอาหารถือเป็นสิ่งดี ๆ ที่ทำได้ง่าย

โกจิเบอร์รี่กับร่างกายมนุษย์

ใครที่ชื่นชอบเมนูอาหารจากแดนมังกร จะคุ้นเคยกับเม็ดเก๋ากี้บนอาหารของประเทศจีน พบมากในกลุ่มอาหารต้มจำพวกซุปต่าง ๆ ที่มีสรรพคุณช่วยบำรุงร่างกาย ตามท้องตลาดก็พบเก๋ากี้อบแห้งที่บรรจุบนซองสมุนไพรราคาถูกซึ่งหาซื้อได้ง่าย แต่ช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมา มีผลิตภัณฑ์จากบริษัทใหญ่นำ โกจิเบอร์รี่ โดยโปรยคำโฆษณาว่านำเข้าจากประเทศญี่ปุ่นเพื่อเข้ามาตีตลาดผลิตภัณฑ์นั้น วัยรุ่นวัยทำงานต่างให้ความสนใจและซื้อหาเป็นจำนวนมาก ทั้งที่จริงแล้ว โกจิเบอร์รี่ ก็คือ เก๋ากี้ บนเมนูอาหารจีนที่เราไม่ค่อยรับประทาน แต่ผู้ใหญ่วัย 40-50 ปีต้องร้องอ๋อทันทีเพราะคุ้นเคยและรับประทานบ่อย สรรพคุณของโกจิเบอร์รี่หรือเก๋ากี้ส่งผลดีต่อร่างกายมนุษย์แน่นอน มิเช่นนั้นคงไม่เป็นที่นิยมในประเทศจีนที่มีตำนานมายาวนาน

โกจิเบอร์รี่ (เก๋ากี้) มีชื่อในภาษาอังกฤษว่า Chinese Wolfberry ซึ่งเป็นที่รู้จักกันทางเภสัชศาสตร์ว่าเป็นพืชในตระกูล Lycium Barbarum มีแหล่งกำเนิดในประเทศจีน สรรพคุณเด่นของโกจิเบอร์รี่ที่ทำให้ถูกบัญญัติในตำราแพทย์ของจีนคือ ช่วยปรับสภาวะของระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายให้สมดุล บำรุงระบบความดันโลหิตให้แข็งแรงเป็นปกติ รักษาปริมาณของน้ำตาลในเลือดส่งผลต่อสารอินซูลินของร่างกายจะสมดุล และฟื้นฟูเซลล์ภายในร่างกายที่ถูกทำลายโดยเฉพาะจากสารเคมีหรือรังสีต่าง ๆ ให้กลับสู่สภาวะปกติเร็วขึ้น เพราะในโกจิเบอร์รี่มีสารโพลีแซคคาไรด์ถึง 4 ชนิด ได้แก่ LBP-1, LBP-2, LBP-3 และ LBP-4

ในยุคปัจจุบันที่วิทยาศาสตร์เข้ามามีบทบาทต่อชีวิต การวิจัยเกี่ยวกับโกจิเบอร์รี่เพื่อหาต้นตอของสรรพคุณเลอค่าก็พบว่า โกจิเบอร์รี่ยังประกอบด้วยกรดอะมิโนถึง 19 ชนิด และอุดมด้วยแร่ธาตุที่สำคัญต่อร่างกาย อาทิ สังกะสี เหล็ก ฟอสฟอรัส ซิลีเนียม ฯลฯ พร้อมทั้งมีวิตามินซีสูงกว่าส้มถึง 500 เท่า รวมถึงวิตามินบี 1, บี 2 และบี 6 วิตามินอีก และที่น่าสนใจยิ่งขึ้นคือ การพบสารเจามาเนียมที่อยู่ในสภาพอินทรีย์ มีฤทธิ์ในการกำจัดเซลล์ต้นกำเนิดมะเร็งภายในร่างกายด้วย

จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ ‘โกจิเบอร์รี่’ หรือ ‘เก๋ากี้’ จะมีประวัติยาวนานเคียงคู่ประวัติศาสตร์ของประเทศจีนแผ่นดินใหญ่ เพราะสรรพคุณที่ดีต่อร่างกายซึ่งพิสูจน์ผ่านเมนูอาหารที่ราชวงศ์จีนรับประทานมายาวนาน รวมถึงงานวิจัยอีกมากที่ช่วยยืนยันถึงประโยชน์ของโกจิเบอร์รี่ที่ดีต่อร่างกายมนุษย์

สำหรับโกจิเบอร์รี่เกรด Premium สามารถสั่งซื้อกับ Herbal Fruits ได้ทั้งในร้านค้าออนไลน์หรือที่นี่ โกจิเบอร์รี่ เก๋ากี้ ( Goji Berry ) ออแกนิค 150 กรัม

[porto_products view=”grid” columns=”1″ ids=”2149″ navigation=””]

พุทราจีนชาวจีนถือว่าเป็นผลไม้แห่งความอุดมสมบูรณ์ ความร่ำรวย ความเจริญรุ่งเรือง

in พุทราจีน, สรรพคุณสมุนไพร

พุทราจีนชาวจีนถือว่าเป็นผลไม้แห่งความอุดมสมบูรณ์ ความร่ำรวย ความเจริญรุ่งเรือง

ทักทายวันว่างๆ วันนี้เอาใจคนชอบกินพุทราจีนกันสักหน่อยดีกว่า หลายคนที่กินทุกวันแต่ไม่ทราบว่าพุทราจีนนอกจากจะเป็นผลไม้ทานเล่นแล้วยังจัดเป็นสมุนไพรด้านอายุวัฒนะของชาวจีนตั้งแต่โบราณมา ที่ให้พลังหยินหยาง หรือเรียกว่า “สมุนไพรพลังอุ่น” ซึ่งจะช่วยฟื้นฟูพลังในร่างกาย มีจุดเด่นในเรื่องการบำรุงสายตา และบำรุงผิวพรรณให้สดชื่นสวยผ่องใส

แล้วจุดกำเนิดของพุทราจีนมาจากไหน? คือมาจากทางตอนใต้ของประเทศจีน ชาวจีนถือว่าเป็นผลไม้แห่งความอุดมสมบูรณ์ ความร่ำรวย ความเจริญรุ่งเรือง

พุทราจีนให้แร่ธาตุและวิตามินต่อร่างกาย ซึ่งอุดมไปด้วย “วิตามินเอ” ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการมองเห็น รักษาโรคตาได้หลายโรค โดยช่วยสร้างเม็ดสีที่มีคุณสมบัติไวต่อแสง ช่วยลดจุดด่างดำ รอยแผลเป็นได้ดี ยังช่วยรักษาโรคผิวหนังที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย “วิตามินบี1” รักษาโรคเหน็บชา ช่วยบำรุงประสาท กล้ามเนื้อ และให้หัวใจทำงานเป็นปกติ ช่วยบรรเทาอาการเมารถ เมาเรือ เมาเครื่องบิน “วิตามินบี2” ลดอาการปวดไมเกรน ช่วยบรรเทาอาการเหนื่อยล้าทางสายตา บำรุงผิวพรรณ เล็บ เส้นผม และบรรเทาความเครียด “วิตามินบี3” ช่วยลดอาการวิงเวียนศีรษะของโรคน้ำในหูไม่เท่ากัน เพิ่มการไหลเวียนของเลือด ลดความดันโลหิต และช่วยรักษาอาการร้อนใน “วิตามินบี6” ช่วยลดอาการคลื่นไส้ อาเจียน ลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจ ป้องกันการเกิดนิ่วในไต ช่วยชะลอวัย ทั้งยังช่วยป้องกันโรคทางประสาทและโรคผิวหนังหลายชนิด “วิตามินซี” ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิว ช่วยปกป้องเซลล์ในร่างกายจากการถูกทำลาย ทำให้ผิวพรรณกระจ่างใส ดูอ่อนเยาว์ ฟื้นฟูผิวจากแสงแดด ช่วยทำให้หายจากการเป็นหวัด ลดการเกิดเส้นเลือดอุดตันในหลอดเลือดดำ ช่วยต่อต้านสารก่อมะเร็ง

พุทราจีนมีคุณประโยชน์มากขนาดนี้ที่เมืองไทยก็มีจัดจำหน่ายแล้วนะครับ แต่ต้องเลือกซื้อดีๆเพราะอาจเจอผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีคุณภาพ พุทราจีนจาก Herbal Fruits เป็นอีกแบรนด์ที่ผมอยากแนะนำให้ทุกคนได้ลอง เพราะเป็นพุทราที่นำเข้าจากไต้หวัน เป็นพันธุ์ที่เม็ดโต รสชาติกรอบนอก นุ่มใน ซึ่งได้รับการยืนยันจากทั่วโลกว่า หวาน หอม ที่มีความแตกต่างจากพุทราจีนในท้องตลาดทั่วไปที่มีรสขม ฝาด

พุทราจีน Herbal Fruits มีจุดเด่นที่ไม่เหมือนใครอย่างชัดเจน ด้วยขนาดที่ใหญ่อวบอิ่มน่ากิน ไม่แห้งลีบเหมือนพุทราจีนทั่วไป แค่แกะซองก็ได้กลิ่นหอมของพุทราจีนออกมาแล้ว มีความหวานธรรมชาติไม่ใส่น้ำตาล สีสันน่ากินไม่ใส่สีปนเปื้อน จึงมั่นใจว่าไร้สารพิษแน่นออครับ

พุทราจีน Herbal Fruits ทำกินได้หลายแบบ ทั้งเอามากินเล่นในวันสบายชิวๆ นั่งดูหนัง ฟังเพลง ปาร์ตี้กับเพื่อนก็นำมาเคี้ยวหนุบหนับแบบเพลินๆกันไปเลย ยังสามารถนำมาแปรรูป ทำพุทราเชื่อมก็อร่อย นำมาประกอบอาหารสำหรับคนในครอบครัวนอกจากอร่อยแล้วยังบำรุงสุขภาพของทุกคนอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็น ไก่ตุ๋นพุทราจีน แกงจืดหูหนูพุทราจีน พุทราจีนต้มหัวหอม ข้าวต้มใส่พุทราจีนกินเป็นอาหารเช้า ก็จะช่วยบำรุงตับ ทำให้เลือดไหลเวียนได้ดี เห็นไหมล่ะครับว่าพุทราจีนสามารถนำมากินได้หลายอย่าง ยิ่งเป็นของ Herbal Fruits ยิ่งได้รับรสของพุทราจีนแบบออริจินอล คัดเลือกแบบเกรดพรีเมี่ยม กินได้ทุกเพศทุกวัย อย่าลืมลองทำกินที่บ้านนะครับ หรือใครมีสูตรดีๆอยากบอกต่อก็อย่าลืมนำมาแชร์กันนะครับ

สรรพคุณพุทราจีนนั้นประกอบไปด้วยสารอาหารและวิตามินที่ช่วยบำรุงร่างกายอย่างเช่นวิตามินเอ ด้วยวิตามินบี 1 (ไทอะมีน) วิตามินบี 2 (ไรโบฟลาวิน) วิตามินบี 3 (ไนอะซิน) วิตามินบี 6 (ไพริด็อกซิน) วิตามินซี นอกจากวิตามินเหล่านี้ พุทราจีนยังมีแร่ธาตุที่มีประโยชน์มากมาย อาทิ แคลเซียม ธาตุเหล็ก แมกนีเซียม สังกะสี และฟอสฟอรัส รวมไปถึงเส้นใยอาหารที่ประกอบภายในพุทราจีน ที่ทำให้เรารู้สึกอิ่มเร็วและช่วยเรื่องระบบขับถ่าย พุทราจีนจึงเป็นตัวเลือกที่ดีของผู้ที่ต้องการควบคุมอาหารและน้ำหนัก

แล้วพุทรานั้นทานยังไงล่ะ? ให้ได้รับสารอาหารและคุณประโชยน์ที่ครบถ้วน ง่ายมากเลยค่ะ วิธีการรับประทานพุทราจีนที่ดีที่สุดนั้น คือ การรับประทานเป็นลูกแบบสด ๆ ที่ยังไม่ผ่านการแปรรูปใด ๆ เพราะนอกจากวิตามินและสารอาหารต่าง ๆ ยังอยู่ครบถ้วนแล้ว เรายังได้ลิ้มรสชาติและสัมผัสความขาวกรอบของเนื้อพุทราจีน รวมไปถึงกลิ่นอีกด้วยสิ่งเหล่านี้คือเอกลักษณ์ของตัวพุทราจีนเองที่ไม่หายไป

แต่ไม่ได้หมายความว่าจะต้องกินสดเป็นลูกเสมอไป เพราะการรับประทานสดอาจจะไม่ใช่รสชาติที่คุณชอบที่สุด เนื่องจากพุทราจีนนั้นเราสามารถนำไปรับประทานร่วมกับสิ่งอื่นได้ขึ้นอยู่กับความชอบส่วนบุคคล และความสร้างสรรค์เมนูพุทราจีนของแต่ละคน ไม่ว่าจะเป็นการนำไปทานร่วมกับกับผลไม้อื่น เป็นสลัดผลไม้ ในจานอาจจะมีผลไม้ที่หาได้ง่ายทั่วไป อย่างเช่น กล้วย สัปปะรด แตงโม แก้วมังกร และแอปเปิ้ลเป็นต้น หรือจะใส่ผลไม้ที่คุณชอบจัดลงไปในจาน ให้กลายเป็นของทานเล่นง่าย ๆ ไม่อ้วน สำหรับผู้ที่ไม่ได้ควบคุมอาหารและน้ำหนักอย่างเคร่งครัด อีกวิธีที่น่าสนใจในการเพิ่มรสชาติใหม่ ๆ ให้ตัวเอง ก็คือ การหั่นพุทราจีนให้เป็นชิ้นเล็ก ๆ โรยหน้าไอศกรีมรสที่คุณชื่อบเป็นทอปปิ้ง หรือจะโรยหน้าเครื่องดื่มเย็น ๆ ที่คุณชอบก็ยังได้ ยังไม่หมดเพียงเท่านี้พุทราจีนนั้นยังสามารถนำมาทำเป็นน้ำปั่นเพื่อสุขภาพอีกด้วย แต่ในการปั่นที่ดีไม่ควรใส่น้ำเชื่อมลงไป เนื่องจากจะทำให้เสียรสชาติแล้วความหวานจากน้ำเชื่อมยังเป็นสิ่งที่ทำให้ร่างกายมีโรคอื่น ๆ ตามมา หากอยากเพิ่มหวานจริง ๆ การใส่น้ำผึ้งลงไปก็สามารถช่วยได้ โดยในการทำน้ำพุทราปั่นนั้นจะปั่นพุทราอย่างเดียว หรือจะใส่ผลไม้อื่น ๆ ที่ชอบลงไปด้วยก็ได้

พุทราจีน Herbal Fruits (จัดส่งทุกวันจันทร์ – ศุกร์ ) 1 ถุง ประกอบด้วยพุทราจีน 500 กรัม จัดเก็บได้นาน 2 ปี นับจากวันที่ผลิต ไม่ขึ้นรา สามารถสั่งซื้อได้ที่นี่ พุทราจีนอบแห้ง Herbal Fruits 500 กรัม ตอนนี้มีโปรคุ้มๆยังเหลืออยู่ รีบๆซื้อมาลองก่อนสินค้าหมดนะครับ ส่วนผมได้กินก็ติดใจในรสชาติจนต้องซื้อตุนเรียบร้อยแล้วครับหรือในร้านค้า Lazada ก็มีจัดจำหน่าย

พุทราจีนอบแห้ง เป็นการแปรรูผลผลไม้อย่างหนึ่ง ที่ช่วยให้เก็บผลไม้ได้ยาวนานมากขึ้น

ป็นอีกหนึ่งตัวเลือกสำหรับผู้ที่ไม่ชอบทานแบบสด เนื่องจากกรรมวิธีการทำซึ่งจะทำให้พุทราจีนอบแห้งนั้นมีรสชาติที่หวานกว่าพุทราจีนแบบสดนั่นเอง โดยวิธีการรับประทานพุทราจีนอบแห้งนั้น สามารถรับประทานได้เลยทันทีแบบฉีกถุงแล้วกินได้เลยวิธีนี้เป็นอีกวิธีที่สะดวกมากสำหรับหลาย ๆ คน แต่พุทราจีนอบแห้งนั้น ไม่ได้มีเพียงวิธีเดียวเท่านั้นที่จะสามารถทานได้ ซึ่งข้อดีอีกอย่างหนึ่งของพุทราจีนอบแห้งคือ เราสามารถนำไปเป็นส่วนประกอบของวัตถุดิบอาหารหรือเครื่องดื่มต่าง ๆ ได้

นอกจากการนำมาประกอบเป็นส่วนประกอบของอาหารหรือเครื่องดื่มแล้ว อีกวิธีหนึ่งที่อยากจะแนะนำเลยก็คือการนำพุทราจีนอบแห้งมาต้มประมาณ 10 เม็ด ต้มให้เปื่อยแล้วจึงเติมน้ำตาลทรายเพียง 1/2 ช้อนชา นำน้ำที่ต้มมาดื่มก่อนนอน สรรพคุณของน้ำพุทราจีนอบแห้งนั้น จะช่วยบำรุงเลือดให้ไหลเวียนเป็นอย่างดี ช่วยบำรุงประสาท สามารถช่วยแก้ปัญหาผู้ที่นอนหลับยาก เพราะน้ำพุทราจีนอบแห้งนั้นช่วยทำให้ผ่อนคลาย และสามารหลับได้อย่างสบายมากขึ้น ซึ่งนี้เป็นสรรพคุณยาที่เป็นส่วนหนึ่งในตำราจีนที่น่าสนใจ หรือจะทำเป็นเครื่องดื่มหวาน ๆ แบบเพื่อสุขภาพก็ได้ โดยให้ใส่กระเจี๊ยบลงไป โดยไม่ต้องใส่น้ำตาลเพิ่ม

อีกเมนูหนึ่งที่เราจะเห็นได้ในบางพื้นที่ที่จะใส่พุทราจีนอบแห้งลงไปคือ การทำน้ำแข็งใสบ้านเรา แต่มีการรับวิธีการกินแบบนี้มาจากใต้หวันซึ่งเป็นน้ำแข็งใส่เช่นกัน เพียงแต่ว่าส่วนประกอบและวัตถุดิบอาจจะแตกต่างกันไปบ้าง สามารถทำเป็นของหวานกินเองง่าย ๆ ได้ที่บ้าน โดยจะมี ลูกเดือย ถั่วแดง รากบัว พุทราจีนอบแห้ง แป๊ะก๊วย ใส่น้ำลำไยพุทราจีน และน้ำเชื่อมเล็กน้อย ใส่น้ำแข็ง ก็ทานได้แล้ว สามารถคลายร้อนได้เป็นอย่างดีเลยล่ะ

พุทราจีนอบแห้งนั้นมีทั้งเครื่องดื่มและของหวานแล้ว ของคาวเองก็สามารถนำมาทำได้ โดยไม่เสียรสชาติอาหารนั้น ๆ และทำให้อร่อยมากเพิ่มขึ้นอีกด้วย เช่น ผัดโหงวก๊วย รากบัวยัดใส้ข้าวเหนียว หรือจะเป็นต้มมะระ นี่เป็นเพียงตัวอย่างส่วนหนึ่งเท่านั้น ซึ่งความจริงแล้วพุทราจีนอบแห้งยังสามารถนำไปเป็นส่วนหนึ่งของอีกหลากหลายเมนูอาหารอีกด้วย