สรรพคุณพุทราจีนกับประโยชน์ที่ต้องรู้
ผลไม้ที่คนไทยส่วนมากหาซื้อได้ง่ายและมีราคาถูกคือ พุทราจีน ทั้งตลาดสดและรถเข็นผลไม้ทั่วกรุงเทพฯ หรือแม้กระทั้งพุทราจีนในร้านค้าออนไลน์ มีทั้งผลสดและผ่านการแปรรูป รสหวานฝาดนิด ๆ ของพุทราจีนกระตุ้นให้การรับประทานต่อเนื่องได้ตลอดทั้งวัน เป็นขนมหวานจากธรรมชาติที่ไม่ทำให้เกิดน้ำหนักสะสมเกินความจำเป็น แต่ประโยชน์ที่แท้จริงของพุทราจีนถูกซ่อนด้วยรูปลักษณ์ที่มีขนาดเล็ก แม้ตัวจะเล็กแต่ใจนั้นใหญ่มาก สรรพคุณของพุทราจีนมีมากกว่าที่คุณจะคิดได้ เพราะพุทราจีนมีสารต่อต้านอนุมูลอิสระที่อยู่รอบตัวคุณทั้งจากมลภาวะและอาหารที่รับประทานในแต่ละมื้อ ผลไม้น้อยชนิดที่จะมีสารตัวนี้ซึ่งสำคัญอย่างมากในปัจจุบัน
สารอาหารที่พุทราจีนมีคือ วิตามินเอ ที่ช่วยรักษาโรคผิวหนังที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย ลดรอยแผลเป็น จุดด่างดำ บำรุงสายตา, วิตามินบี 1 (ไทอะมีน) ที่ช่วยบำรุงประสาท, วิตามินบี 2 (ไรโบฟลาวิน) ที่ช่วยบำรุงเล็บและเส้นผม วิตามินบี 3 (ไนอะซิน) ที่ช่วยเผาผลาญไขมันและช่วยเพิ่มพลังงานในการย่อยอาหาร, วิตามินบี 6 (ไพริด็อกซิน) ที่ช่วยป้องกันโรคหัวใจและนิ่วในไต, วิตามินซี ที่ช่วยเสริมสร้างภูมิต้านทานของร่างกายให้แข็งแรง แก้ไข้หวัด และยังช่วยบำรุงผิวให้สดใส นอกจากวิตามินเหล่านี้ พุทราจีนยังมีแร่ธาตุที่มีประโยชน์มากมาย อาทิ แคลเซียม ธาตุเหล็ก แมกนีเซียม สังกะสี และฟอสฟอรัส
เมื่อรับประทานพุทราจีนเป็นประจำก็มั่นใจได้ว่าอาการเจ็บป่วยที่เผชิญประจำ อาทิ ไข้หวัด จะเกิดน้อยลง รวมถึงการรับประทานอาหารที่เอร็ดอร่อยยิ่งขึ้น เพราะพุทราจีนจะช่วยกระตุ้นการดูดซึมสารอาหารในร่างกาย เหมาะกับผู้ที่กำลังลดน้ำหนักและมองหาขนมสำหรับรับประทานระหว่างมื้ออาหาร รสหวานที่ปนความฝาดจะช่วยบรรเทาความอยากอาหารเป็นอย่างดี ปริมาณของพุทราจีนอบแห้ง 100 กรัมมีปริมาณพลังงานไม่เกิน 300 กิโลแคลอรี่ ดีกว่าการรับประทานถั่วไม่กี่เม็ดและอยู่ท้องมากกว่า และผลเสียต่อร่างกายมีน้อยกว่า ซึ่งอาหารจีนหลากเมนูก็มีส่วนผสมจากพุทราจีนอยู่มากมาย อาทิ ไก่ตุ๋นพุทราจีน โจ๊กพุทราจีน ฯลฯ และพุทราจีนก็ปรากฏบนประวัติศาสตร์ของแดนมังกรอย่างช้านาน
พุทรามีแหล่งกำเนิดที่ประเทศจีนตอนเหนือ มีการบริโภคในประเทศจีนมาเมื่อ 4,000 ปีที่แล้ว ในอินเดียปลูกพุทรามาก่อนสมัยพุทธกาล ซึ่งมีกล่าวถึงในบันทึกของหลวงจีนยวนชางที่เดินทางไปอินเดียเมื่อราว พ.ศ. 1172 พุทราจีนเป็นผลไม้ชนิดหนึ่ง โดยต้นพุทราเองถือว่าเป็นไม้ยืนต้นขนาดเล็ก ในวงศ์ Rhamnaceae เป็นไม้ยืนต้นมีหนาม ต้นเป็นทรงพุ่มทึบ มักมีเป็นคู่ โดยตรงทั้งสองอันหรือตรงอันหนึ่ง โค้งอันหนึ่ง ผลมีเมล็ดเดียว ผิวเรียบส่วนใหญ่ผลสุกจะเป็นสีเหลือง ยกเว้นบางพันธุ์ที่เป็นสีแดงเข้ม มีทั้งพันธุ์ผลเล็กและผลใหญ่ ผลมีลักษณะทรงกลมหรือทรงรี ผิวเปลือกบางมันลื่นสามารถกินได้ ผลอ่อนมีสีเขียว และเมื่อผลสุกดีแล้วจึงเปลี่ยนเป็นสีเหลือง หรือสีแดงส้ม โดยทั้งขนาดของผลเล็กหรือผลใหญ่ รวมไปถึงสีนั้นยังขึ้นอยู่กับสายพันธ์ จึงทำให้บางชนิดมีความแตกต่างกัน
พุทราถือว่าเป็นผลไม้ที่ยอดนิยมของชาวจีน รวมถึงประเทศอื่น ๆ ไม่เว้นแม้แต่ประเทศไทยเอง ที่ก็ชื่นชอบพุทราจีนไม่น้อยนอกจากจะมีการนำเข้าพุทราจีนเป็นอย่างมากแล้ว ในปัจจุบันประเทศไทยก็ได้มีการปลูกต้นพุทราจีนไว้เช่นกัน ด้วยรสชาติและเนื้อสัมผัสที่ใครได้ลิ้มลองต่างก็ชื่นชอบกับภายในผลที่มีเนื้อนุ่มสีขาว ชุ่มช่ำน้ำ มีรสชาติหวาน หรือหวานอมเปรี้ยว ตามสายพันธ์ และกลิ่นหอมที่เป็นเอกลักษณ์ของพุทราจีนอีกเช่นกัน
พันธุ์พุทราจีนที่มีปลูกในประเทศไทย ได้แก่
- พันธุ์พื้นเมือง แบ่งเป็นพันธุ์ลูกเกดและพันธุ์ไข่เต่า ใบขนาดเล็ก กลม ผลรีหรือกลมแป้น เปลือกบาง เนื้อหยาบสีเหลือง รสเปรี้ยวและฝาดอมหวาน
- พันธุ์สามรส ใบเล็กยาวรี หนา ผลทรงกลมแป้น เปลือกบาง เนื้อละเอียดสีขาวกรอบ
- พันธุ์เจดีย์ หรือพันธุ์ปากน้ำ เป็นลูกผสมของพันธุ์พื้นเมืองกับพันธุ์จากอินเดีย ถิ่นกำเนิดอยู่ที่สมุทรปราการ
- พันธุ์บอมเบย์ นำเข้ามาจากกัลกัตตา ใบยาวรี ปลายแหลม ผลยาวรี เปลือกบางเป็นมัน เนื้อเหลือง ละเอียด หวานกรอบ
- พันธุ์เหรียญทอง ใบใหญ่ยาว ผลใหญ่ทรงกลมคล้ายแอปเปิล เปลือกหนา ผิวหยาบ เนื้อขาวละเอียด หวานกรอบ มีกลิ่นหอม
- พันธุ์แอปเปิล ใบใหญ่รูปหัวใจ ผลใหญ่ กลมแป้น เปลือกหนาใส สีเขียวเข้มเนื้อสีขาว กรอบละเอียด หวานอมเปรี้ยว
- พันธุ์สาลี่หรือพันธุ์บอมเบย์ยักษ์ ใบใหญ่ ผลทรงคล้ายสาลี่ ผลใหญ่กว่าพันธุ์อื่น เปลือกบาง ผิวเหลือง เนื้อสีเหลือง ค่อนข้างหยาบ หวานกรอบ เนื้อมาก
สรรพคุณพุทราจีน
นอกจากพุทราจีนจะเป็นผลไม้ที่ชื่นชอบและยอดนิยมในหลายประเทศแล้ว พุทราจีนยังถือได้ว่าเป็นสมุนไพรอีกด้วย ซึ่งมีสรรพคุณที่มากมาย ปัจจุบันเราจึงเห็นได้ว่าพุทราจีนที่เป็นผลไม้นั้นนอกจากจะสามารถกินสดได้แล้ว ยังมีการแปรรูไปเป็นนพุทราจีนเชื่อม หรือนำไปเป็นส่วนหนึ่งในการประกอบอาหารเป็นเมนูอาหารด้วยพุทราจีน ของหวานและเครื่องดื่ม นอกจากนี้พุทราจีนยังเป็นผลไม้ที่มีคนให้ความสนใจและนำไปเป็นส่วนผสมในเครื่องสำอางค์และอาหารเสริม หรือยาบำรุงร่างกายอีกด้วย จากข้อมูลของสำนักโภชนาการ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณะสุข พุทรายังถูกจัดให้เป็น 1 ในผลไม้ 10 ชนิดแรก ที่มีปริมาณวิตามินซีสูงกว่าผลไม้ชนิดอื่น
โดยพุทราจีนนั้นไม่ดีมีคุณประโยชน์เฉพาะผลเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงเมล็ดและใบของมันอีกด้วย
สรรพคุณของผลพุทราจีน
- รสหวานมันและฝาดในผลพุทรานั้นช่วยบำรุงร่างกาย
- สำหรับผู้ที่ร่างกายอ่อนแอ ไม่ค่อยมีแรง ผลพุทรานั้นช่วยบำรุงร่างกาย เมื่อรับประทานโดยพาะผู้ตั้งครรภ์ที่รู้สึกอ่อนแรงล้า
- พุทราจีนอุดมไปด้วยวิตามินซี ซึ่งช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระและช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกัน เสริมสร้างภูมิต้านทานโรคให้กับร่างกาย
- ช่วยบำรุงประสาทและสมองช่วยลดความเครียด ทำให้สมองปลอดโปร่ง รวมไปถึงสามารถช่วยแก้โรคนอนไม่หลับ
- ช่วยบำรุงตับและม้ามให้ทำงานได้อย่างเต็มที่
- ผลช่วยบำรุงโลหิต และช่วยรักษาโรคโลหิตจาง
- ช่วยบำรุงสายตา ลดอาการตาฟาง และป้องกันโรคตาบอดในที่มืด
- ช่วยขับปัสสาวะได้ดี
- ช่วยป้องกันโรคความดันโลหิตสูง
- ช่วยบำรุงผิวพรรณกระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวให้ซ่อมแซมตัวเอง และมีอนุมูลอิสระช่วยชะลอวัย สร้างภูมิคุ้มกันโรค
- ช่วยป้องกันเส้นเลือดแข็งตัว เส้นเลือดหัวใจตีบ และเส้นเลือดในสมองแตกได้
สรรพคุณของเมล็ดพุทราจีน
- เมล็ดเมื่อนำมาป่นทำเป็นยาลดไข้ แก้อาการหวัดในเด็กได้
- นอกจากนี้เมื่อนำเมล็ดมาป่น ยังสามารถใช้เป็นยารักษาอาการชักในเด็กได้เป็นอย่างดี
สรรพคุณของใบพุทราจีน
- เมื่อนำไปโขลกหรือสับเป็นชิ้นเล็กและนำมาประคบจะช่วยลดพิษจากแมลงสัตว์กัดต่อย
- เมื่อนำไปใช้โขลกหรือสับเป็นชิ้นละเอียดและนำมาทาบริเวรที่คัน สามารถแก้อาการผื่นคันตามผิวหนังได้ดี